เคล็ด(ไม่)ลับ...กับการปลูกกวาวเครือแดง
สุดยอดสมุนไพรที่ท่านผู้ชายชอบมาใช้บำรุงร่างกายเป็นอันดับต้นๆ เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อสมุนไพร ”กวาวเครือแดง” เป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ โดยปกติแล้ว “กวาวเครือแดง” มักพบมากในป่า โดยต้นจะพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่ๆ แต่ในระยะหลัง มีการเพาะปลูก “กวาวเครือแดง” มากขึ้น และเริ่มแพร่หลายไปในทุกภาคของประเทศ สาเหตุที่ต้องเพาะพันธุ์ กวาวเครือแดงเองนั้น เพราะการเพาะในธรรมชาตินั้น ไม่สามารถที่จะควบคุมปัจจัยและสภาวะที่เหมาะสมในการเพาะปลูกของ
กวาวเครือแดงได้ เพราะหากไม่มีการปลูกเพื่อนำมาใช้คุณสมบัติโดยหวังว่าจะไปหาจากป่าอย่างเดียวก็อาจจะสูญพันธุ์ไป เช่นเดียวกับสมุนไพรหลายๆตัวที่สุ่มเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในขณะนี้ เช่น เถาวัลย์เปรียง เจตมูลเพลิงแดง สมอไทย และสมอพิเภก ส่วนการเพาะ และการเพาะกวาวเครือแดง ที่นิยมทำกันนั้นทุกท่านอยากรู้กันไหมครับ เอาเป็นว่าอยากรู้ละกันนะครับ (แบบถามเองตอบเอง) สำหรับการปลูก “กวาวเครือแดงและกวาวเครือขาว” นั้น หลักๆมีอยู่ 3 วิธี ที่ชอบทำและมีอัตราการรอดสูง คือ การปลูกการปักชำ และ การแบ่งหัวต่อต้นโดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้ คือ
- การเพาะปลูกเมล็ด ก็คือ การนำเมล็ดกวาวเครือแดงมาเพาะในขี้เถ้าเลย แล้วนำต้นกล้าที่ได้ไปขยายพันธุ์ในถุงเพาะชำ โดยใช้ดิน 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลบ และ เปลือกมะพร้าว อย่างละส่วน พอมีอายุได้ 2 เดือน จึงนำไปลงแปลงเพาะปลูก โดยต้องหาหลักไว้ให้ต้นพันเกาะขึ้นด้วย
- การปักชำ มีวิธีดังนี้ นำเถาของกวาวเครือแดง ที่มีข้อมาปักชำในวัสดุเพาะเลี้ยง พอแตกรากจึงนำไปปลูกในแปลง
- การแบ่งหัวต่อต้น คือ นำหัวของกวาวเครือแดง ที่ไม่มีตาจะแตกต้นใหม่ มาเชื่อมต่อตามวิธี ต่อราก เลี้ยงกิ่ง หลังการต่อต้นประมาณ 2 เดือน จึงนำไปปลูกลงแปลงได้
เห็นไหมละครับ เพียงแค่นี้ การปลูก
กวาวเครือแดงก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกท่านอีกต่อไป “ตามหัวข้อ เคล็ด (ไม่)ลับ...กับการเพาะ
กวาวเครือแดง” โดย 3 วิธีที่กล่าวมานี้ เป็นวิธีที่ชอบทำกัน แต่หากท่านใดมีวิธีอื่นที่นอกเหนือจากนี้ นำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
Tags : ประโยชน์กวาวเครือแดง